คีน เผยว่าที่ทำไปไม่ได้ตั้งใจวิวาทกับ แมนยู แค่อารมณ์ชั่ววูบ

รอย คีน สมัยก่อนกองกลาง แมนฯ ยูไนเต็ด เจาะจง ยุคที่ยังเล่นอยู่ตนก็เคยมีเรื่องมีราวทะเลาะกับ ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล มาแล้ว ก่อนที่จะ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะเข้ามาห้ามเอาไว้จนกระทั่งทำให้เรื่องราวไม่แย่ลงกว่าเดิมจาก เว็บพนันที่แจกเครดิตฟรี2020

รอย คีน ตำนานมิดฟิลด์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สมาคมดังที่เวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เผยออกมาว่ายุคที่ยังอยู่กับ "ซาตานแดง" ตนก็เคยทะเลาะเบาะแว้งอย่างมากกับ ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ผู้เฝ้าประตูเพื่อนฝูงร่วมกลุ่มเช่นกันของ Dewabetเครดิตฟรี

เรื่องการที่นักฟุตบอลจากกลุ่มเดียวกันก่อให้เกิดปัญหาทะเลาะกันเปลี่ยนเป็นเรื่องที่ถูกเอ่ยถึงเป็นอย่างมากในประเทศอังกฤษตลอดตอนไม่กี่วันที่ผ่านมา ภายหลังที่ ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกกลุ่มชาติอังกฤษเข้าไปหาเรื่อง โจ โกเมซ กำแพงข้างหลังเพื่อนร่วมชาติ ด้วยเหตุว่ายังอารมณ์ค้างจากการที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สังกัดเดิมของตนเองแพ้ หงส์แดง กลุ่มของ โกเมซ ซึ่งมันก็ทำให้ สเตอร์ลิง โดนสั่งห้ามมีส่วนร่วมอะไรก็แล้วแต่ทั้งหมดในเกม ยูโร 2020 รอบเลือก รอบแบ่งกลุ่ม กรุ๊ป เอ นัดหมายที่ อังกฤษ กระหน่ำ มอนเตเนโกร 7-0 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 เดือนพฤศจิกายน ก่อนหน้านี้ของ แจกเครดิตแทงบอลฟรีล่าสุด

ภายหลังจากโดนถามคำถามว่า สเตอร์ลิง ควรจะโดนตัดชื่อจากกลุ่มชาติอังกฤษชุดนี้ไปเลยหรือเปล่านั้น คีน ก็ตอบว่า "ส่วนตัวแล้วผมไม่คิดว่ามันจำเป็นที่จะต้องทำถึงขนาดนั้นหรอกนะ เขา (เอ็งเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมกลุ่มชาติอังกฤษ) บางครั้งก็อาจจะทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดมากยิ่งกว่าเดิมกว่าพวกเรา จะบอกให้ว่าผมเองเคยมีเรื่องมีราวทะเลาะกับ ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ในโฮเต็ลมาก่อน มันเกิดขึ้นในล็อบบี้ แล้วก็ในตอนนั้นน่าจะเป็นเวลาราวตี 4 ขณะนั้นไม่มีผู้ใดอยู่บริเวณนั้นเยอะแค่ไหน และก็ผู้จัดการทีมฟุตบอล (เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน) ก็เข้ามาแยกพวกเราออกมาจากกัน เขาพูดว่าพวกเราทั้งสองต่างก็ทำเรื่องที่น่าอับอายขายขี้หน้า"

เพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบ!คีนเปิดเผยเคยทะเลาะวิวาทกับ1ลำแข้งแมนยู
"ต่อไป ปีเตอร์ ก็ขออภัยกับปัญหาที่เกิดขึ้น รวมทั้งพวกเราต่างก็ไม่สนใจมันอีกต่อไป มันไม่เคยมีผลเสียกับพวกเราในฐานะเพื่อนฝูงร่วมกลุ่ม หรือเกิดโทษต่อแผนการที่พวกเราอยากเช่นกันเลย ในช่วงเวลาที่ผมได้ยินการบอกว่านักเตะจำเป็นต้องขออภัยกับเพื่อนพ้องร่วมกลุ่มเพื่อมันดูราวกับว่าเป็นการโฆษณาที่ก็ดีแล้วเนี่ย ผมไม่รู้เรื่องจริงๆว่ามันจึงควรทำถึงกับขนาดนั้นไปเพราะเหตุไรกัน"